กำหนดการเดินทาง

สี่แยกที่ถนน Midosuji ซึ่งถอดยาวทางด้านเหนือ-ใต้ ตัดกับกับถนน Nagahori ที่ถอดยาวทางตะวันออก-ตก ที่นี่มีร้านแบรนด์เนมต่างๆ เช่น Chanel, Cartier, Louis Vitton และแบรนด์ดังๆทั่วโลก เปิดเรียงรายอยู่มากมาย หลายๆร้านเป็นร้านขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งนอกจากชาวโอซาก้าแล้ว ยังมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้าออกกันพลุกพล่าน ไม่เพียงแต่ร้านค้าบนถนน หากได้แวะเข้าไปในห้างสรรพสินค้า Daimaru สาขา แล้วก็จะพบกับร้านแบรนด์เนมอีกด้วย จะช็อปก็ดี ดูก็เพลิน รู้สึกเหมือนกับเซเลบเลยทีเดียว

หมู่บ้านอเมริกัน เป็นศูนย์กลางแฟชั่นและวัฒนธรรมของหนุ่มสาวโอซาก้า โดยทางทิศตะวันตกของถนน Midosuji มีร้านเสื้อผ้ามือสอง และร้านของกระจุกกระจิกนำเข้าเรียงรายจำนวนมาก มี Big Step ที่ๆวัยรุ่นจะพากันไปสนุกกับการชมภาพยนตร์และฟังดนตรีสด นอกจากนี้ ยังมีตึกรวมร้านค้าแฟชั่นสุดเฉพาะที่เปิดมานานอยู่ด้วย ลำพังแค่เดินไปดูวัยรุ่นแถวนี้แต่งเนื้อแต่งตัว ดูร้านค้าว่าเขาแต่งร้านกันอย่างไรก็สามารถสนุกได้แล้ว

อ่านเพิ่มเติม

ย่านแฟชั่นแห่งใหม่ของบรรดาวัยรุ่นทั้งหลาย เดิมทีเป็นเมืองสำหรับเฟอร์นิเจอร์มาก่อน ซึ่งแม้จนทุกวันนี้ก็ยังเปิดบริการอยู่ เฟอร์นิเจอร์ทั้งแบบคลาสสิคและแบบล้ำสมัย, ร้านเครื่องประดับกระจุกกระจิก, บูติคน่ารักๆ, คอฟฟี่ช็อปบรรยากาศแสนดี เปิดบริการอยู่แถวนี้มากมาย และที่สำคัญคือไม่พลุกพล่านเกินไป อีกทั้งบริเวณ Horie ริมสุดทิศตะวันตกของย่าน Minami ยังเป็นแหล่งรวมร้านอาหารบรรยากาศดีๆ ที่กำลังเป็นกระแสนิยมอีกด้วย มาสนุกกับบรรยากาศผู้ใหญ่ๆของที่นี่กัน

อ่านเพิ่มเติม

อาเขตการค้าที่เริ่มมาตั้งแต่สมัย Edo เดิมที่มีร้านหนังสือ, ร้านเครื่องดนตรีซอสามสายญี่ปุ่น Shamisen, และร้านกิโมโนะ รวมกันอยู่ที่นี่มาก่อน ต่อมาหลังเปิดประเทศ จึงเริ่มมีร้านเสื้อผ้าตะวันตกเกิดขึ้น ผู้คนมีสไตล์เรียกการเดินเที่ยวที่ย่าน Shinsaibashi-suji นี้ว่า "Shin-Bura" หากเดินไปจนสุดอาเขตทางทิศใต้ จะเป็นสะพาน Ebisubashi ที่เมื่อครั้งนึงเคยพลุกพล่านไปด้วยผู้คนที่ต้องการเดินทางไปนมัสการเทพเจ้าแห่งการค้าที่ศาลเจ้า Imamiya Ebisu Jinja และผู้คนที่จะไปดูละครแุว Dotombori แต่ปัจจุบันกลายเป็นย่านของวัยรุ่น อย่าลืมแวะถ่ายรูป โพสท่ากับป้ายกูลิโกะด้วยนะ! ป้ายไฟนีออนที่สะท้อนกับผิวน้ำนั้น ช่างสวยสมเป็นโอซาก้า

อ่านเพิ่มเติม

วัด Hozenji อันเงียบสงบ ซึ่งแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับย่าน Minami ที่วุ่นวาย เดินผ่านประตูที่เขียนว่า "ตรอก Hozenji Yokocho" แล้วเดินตามถนนที่ปูด้วยหิน ก็จะได้กลิ่นธูปหอม และมองเห็นพระพุทธรูป Mizukake Fudoson ที่บรรดาผู้มาเยือนจะรดน้ำ จนเกิดต้นมอสขึ้นปกคลุมทั่ว จนกลายเป็นสีเขียว บอกได้ถึงความลึกซึ้งในศรัทธาและประวัติศาสตร์ ในตรอกที่เรียงรายไปด้วยร้านอาหารเล็กๆและบาร์แห่งนี้ ถูกวาดเป็นฉากในนวนิยายเรื่อง Meoto Zenzai ของอาจารย์ Oda Sakunosuke และอยู่ในเพลงฮิต "Tsuki no Hozenji Yokocho" ที่ร้องขึ้นว่า "Hocho Ippon, Sarashi ni Maite ~" ด้วย ซึ่งภายในตรอก ยังคงมีอนุสรณ์ของเพลงนี้อยู่

เมื่อพูดถึงตลกของโอซาก้าแล้ว การแสดงสดของคณะ Yoshimoto Kogyo นั้นขาดไม่ได้ และที่เป็นฐานใหญ่ก็คือที่ "โรงละคร Namba Grand Kagetsu" ซึ่งเปิดตลอดทั้งปี (หมายเหตุ) เต็มอิ่มกับตลก "สด" จากทั้งดาราตลกหน้าใหม่ และตลกคู่หู ซึ่งจะเปลี่ยนไปทุกสัปดาห์ แนะนำให้ตรวจหาดาราตลกที่ชอบจากเว็บไซต์ล่วงหน้า ส่วนร้านค้าในอาคารก็จำหน่ายสินค้า Yoshimoto ที่หายาก หากนำไปเป็นของฝากแล้ว จะทำให้คุณเป็นคนดังในห้องหรือที่ทำงานเลยล่ะ!

อ่านเพิ่มเติม

เต็มอิ่ม&ตื่นเต้น ได้กินแล้วหัวเราะในช่วงเวลาเดินเล่นที่ย่าน Minami จบลงที่การไปพักผ่อนที่ "คอมเพล็กซ์ Namba Parks" บนพื้นที่กว้างประมาณ 10,000 ตร.ม. เป็นศูนย์การค้าขนาดยักษ์ ที่มีีพื้นที่สีเขียว สร้างบนอดีตสนามเบสบอลโอซาก้า โดย "Parks Garden" บนดาดฟ้าเป็นพื้นที่สงบ มีดอกไม้ตามฤดูกาล จะนั่งผ่อนคลายที่ม้านั่งก็ดี, อยู่ท่ามกลางแสงแดดที่ส่องลงมาก็ดี, หรือจะทานอาหารท่ามกลางความเขียวขจีที่คาเฟ่ หรือร้านอาหารก็แนะนำสุดๆ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีร้านแฟชั่น และขายของทั่วไปด้วย ก่อนอื่นก็คูลดาวน์ร่างกาย เสร็จแล้วก็ไปตะลุย Minami ยามค่ำคืนกันต่อ!

อ่านเพิ่มเติม