กำหนดการเดินทาง

จากสถานี Osaka ค่อยๆเดินตามถนนมิโดสุจิลงมาทางใต้ 15 นาที ข้ามสะพาน Oebashi ที่ทอดข้ามแม่น้ำโดจิมะ จะมาถึงนากาโนะชิมะ พื้นที่สันทรายแคบระหว่างแม่น้ำโดจิมะและแม่น้ำโทสะโบริ ยาวจากตะวันออกไปตะวันตกประมาณ 3.5 ก.ม. มีพื้นที่ประมาณ 50 ha ในสมัยเอโดะ รอบๆนากาโนะชิมะที่มีการจราจรทางน้ำดี มีโกดังของแต่ละตระกูลตั้งเรียงรายและเต็มไปด้วยกิจกรรม ในปี 1903 Bank of Japan Osaka Branch ถูกสร้างบนพื้นที่โกดังเดิม ซึ่งได้กลายเป็นที่พักของนักธุรกิจ Godai Tomoatsu อาคารเป็นสไตล์ นีโอเรเนซองส์ออกแบบโดยสถาปนิกอันดับหยึ่งในยุคเมจิ Tatsuno Kingo มีหลังคาโดมสีฟ้าเขียวที่น่าประทับใจ เมื่อชมภายนอกที่สวยสง่าแล้ว ก็น่าจะดูข้างในด้วย ถ้าได้ติดต่อจองล่วงหน้า 2 อาทิตย์ ถึง 3 เดือนทางไปรษณีย์แล้ว จะสามารถเข้าชมภายในได้ (ประมาณ 1 ช.ม. 10 นาที พร้อมไกด์)

เดิมทีฝั่งตะวันออกของนากาโนะชิมะ มีอาคารสมัยใหม่อยู่ 4 อาคาร Bank of Japan Osaka Branch, Osaka City Hall, Prefectural Nakanoshima Library, Central Public Hal รวมเป็นทัศนียภาพที่เป็นสัญลักษณ์ของ "โอซาก้าใหญ่" แต่น่าเสียดายที่ City Hall เดิมถูกรื้อถอน และสร้างใหม่เป็นอาคารในปัจจุบันเมื่อปี 1985

ออกจากประตูตะวันออกของ Osaka City Hall จะพบอาคารสไตล์นีโอบาโรก Osaka Prefectural Nakanoshima Library มีเสาใหญ่ 4 ต้นที่ทำให้นึกถึงวิหารกรีก อาคารที่สวยงามนี้สร้างในปี 1904 ค่าก่อสร้างและค่าซื้อหนังสือได้รับบริจาคมาจากกลุ่มการเงินในโอซาก้า หัวหน้าตระกูล Sumitomo รุ่น 15 Sumitomo Kichizaemon โดยได้รับอิทธิพลจากผู้ประกอบการในตะวันตกที่มักมีส่วนร่วมในงานเกี่ยวกับวัฒนธรรมและการกุศล เวลาที่เขาเดินทางไปยุโรป จึงเสนอการบริจาคการบริจาคที่มหาศาล ที่นี่มีเพดานสูง กระจกสี และราวบันไดที่ขัดจนเงา...... แสดงถึงจิตวิญญาณของพ่อค้าโอซาก้าที่สืบทอดมา 100 ปี ในปี 1996 หนังสือครึ่งหนึ่งถูกย้ายไป Prefectural Central Library ที่สร้างในฮิกาชิโอซาก้า แต่ก็ยังมีหนังสือสำคัญเก็บอยู่มากมาย ผู้ใช้ก็ไม่ได้ลดลง ที่นี่ยังเป็นขึ้นเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของชาติด้วย

ที่ตั้งอยู่ด้านตะวันออกของ Prefectural Nakanoshima คือ Central Public Hall ที่มีอิฐสีแดงและโค้ง สไตล์นีโอเรเนซองส์ สร้างเสร็จในปี 1918 เป็นอาคารที่มีบทบาทด้านการพัฒนาวัฒนธรรมและศิลปะในโอซาก้าปัจจุบัน เช่น การบรรยายของ Helen Keller, งานเลี้ยงต้อนรับ Yuri Gagarin นักบินอวกาศคนแรก, คอนเสิร์ตดนตรีคลาสสิก, ปัจจุบันก็ยังคงใช้จักิจกรรมต่างๆ และเป็นสัญลักษณ์ของโอซาก้า โดยเฉพาะโถงใหญ่หรูหราสะดุดตา ที่นี่เริ่มสร้างในปี 1913 ด้วยเงินบริจาค 1 ล้านเยน ที่นายหน้าซื้อขายหุ้น Iwamoto Einosuke บริจาคให้เทศบาลโอซาก้า ส่วนตัว Iwamoto ฆ่าตัวตายเมื่ออายุ 39 ปี จากการลงทุนล้มเหลว ไม่ทันจะได้เห็นที่นี่สร้างเสร็จ ที่ชั้นใต้ดินของโถงมีห้องอนุสรณ์ Iwamoto Einosuke อยุ่ (ชมฟรี) ในปี 2002 หลังเสร็จสิ้นการบูรณะก็ได้เปิดขึ้นใหม่ พร้อมกับขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมแห่งชาติ หาก Iwamoto Einosuke ได้มาเห็นว่าที่นี่ยังเป็นที่รักของชาวโอซาก้าในปัจจุบัน เขาจะคิดยังไงกัน......

ในโอซากก้ามีสะพานอยู่หลายสะพาน แต่สะพานที่ออกแบบมีเอกลักษณ์เช่นนี้มีไม่มากนัก เดินมาทางตะวันออกของ Central Public Hall 3 นาที จะพบสะพาน Naniwabashi ซึ่งมีรูปปั้นสิงโตหินสง่างามตั้งอยู่ที่ปลายสะพาน 4 มุม ทำให้ที่นี่มีชื่อเรียกว่า "Lion Bridge" สิงโตที่อ้าปากและสิงโตที่ปิดปากเรียกรวมว่า "สิงโตอา-อุน" แล้วทำไมถึงเป็นสิงโต? สมัยเอโดะ สะพาน Naniwabashi ยาวกว่า 200 เมตร จากบนสะพานจะเห็นทิวทัศน์โดดเด่น จนมีกลอนว่าที่นี่เห็นได้ทั่วทุกซอกทุกมุม และมีคำว่า 44 (ชิชิ) อยู่ ซึ่งเสียงตรงกับคำว่าสิงโต ส่วนเรื่อง 44 นั้นมีหลายทฤษฐี แต่ไม่มีใครรู้ข้อเท็จจริง สะพานในปัจจุบัน สร้างในปี 1915 ซึ่งยังคงเป็นที่ภาคภูมิใจของคนโอซาก้าทั้งในอดีตและปัจจุบัน ข้ามสะพานนี้ไปทางใต้สู่คิตะฮามะ

ในสมัยเอโดะ คิตาฮามะที่อยู่ตะวันออกเฉียงใต้ของสะพาน Naniwabashi เป็นที่แลกเปลี่ยนข้าว เพื่อซื้อขายข้าวจากทั่วประเทศ เข้ามาที่โกดังรอบนากาโนะชิมะ และพัฒนาต่อมาจนในที่สุด ปี 1878 ก็ได้ตั้งเป็นตลาดหลักทรัพย์ เปลี่ยนจาก Osaka Stock Exchange Co., Ltd. เป็น Osaka Securities Exchange ซึ่งยังคงเป็นที่รวบรวมบริษัทหลักทรัพย์และธนาคารแม้ในปัจจุบัน อาคารตลาดหลักทรัพย์ทรงกระบอกสีขาวใหญ่ซึ่งสร้างเสร็จในปี 1935 ได้ถูกเปลี่ยนเป็นอาคารสูงบนดิน 24 ชั้น ใต้ดิน 2 ชั้น ในปี 2002 แต่กำแพงด้านหน้าของเดิมยังคงได้รับการรักษาเอาไว้ ซึ่งที่นี่ก็ยังเป็นหน้าตาของคิตะฮามะ ซึ่งถ่ายทอดบรรยากาศของสมัยนั้นอยู่ หน้าอาคารมีรูปปั้นของ Godai Tomoatsu บิดาของเศรษฐกิจโอซาก้าอยู่

เดินไปทางใต้ประมาณ 10 นาที จาก Osaka Securities Exchange อ้อมทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของสำนักงานใหญ่ธนาคาร Sumitomo ที่สร้างในปี 1926 จะพบอาคารสี่ชั้น สะดุดตา ที่นี่คือ Osaka Club ที่สร้างในปี 1924 เป็นหนึ่งในสามสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปทางใต้ จากวิธีการแบบตะวันออกของโอซาก้า ออกแบบโดยสถาปนิกมีชื่อ Yasui Takeo และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของชาติในปี 1997 ที่นี่เป็นหอเฉพาะของ Osaka Club สโมสรทางสังคมแบบอังกฤษที่ตั้งในปี 1912 ห้องอาหาร, ห้องนั่งเล่น, ห้องบิลเลียดมีไว้ใช้เฉพาะสมาชิกเท่านั้น แต่ห้องโถงที่กว้างขวางชั้น 4 เปิดให้ใช้ทั้งเพื่อการบรรยาย และซาลอนคอนเสิร์ต ที่นี่มีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมหวลของวัฒนธรรม

จาก Osaka Club ไปทางเหนือตามถนน Midosuji จนถึงสะพาน Yodoyabashi ที่ทอดข้ามแม่น้ำ Tosaborigawa ว่ากันว่าสะพานนี้ สร้างอยู่หน้าที่พักของ Yodoya พ่อค้าผู้ร่ำรวย และมีอนุสรณ์แสดงที่ตั้งของคฤหาสน์ทางด้านตะวันตกของปลายสะพานฝั่งใต้ สะพานในปัจจุบันสร้างในปี 1935 โดยรวบรวมการออกแบบมาจากคนทั่วไป สะพานที่ดูสง่ามั่นคงนี้ มีรถและผู้คนผ่านไปมาไม่หยุด ทั้งสะพาน Yodoyabashi, ย่าน Kitahama, และ Semba ยังคงเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่หลงเหลือมาจากยุค "โอซาก้าใหญ่" และยังคงตั้งอยู่อย่างสง่างามในย่านธุรกิจวุ่นวาย ราวกับเวลาได้ถูกหยุดเอาไว้ เหล่าผู้บุกเบิกได้ใส่อะไรเข้าไปในสิ่งก่อสร้างเหล่านี้? ความรักต่อเมืองนี้? ความภาคภูมิใจ? หรืออาจจะเป็นเสียงเชียร์ว่า "คุณเองก็พยายามเข้านะ" ในสมัยเอโดะ คิตาฮามะที่อยู่ตะวันออกเฉียงใต้ของสะพาน Naniwabashi เป็นที่แลกเปลี่ยนข้าว เพื่อซื้อขายข้าวจากทั่วประเทศ เข้ามาที่โกดังรอบนากาโนะชิมะ และพัฒนาต่อมาจนในที่สุด ปี 1878 ก็ได้ตั้งเป็นตลาดหลักทรัพย์ เปลี่ยนจาก Osaka Stock Exchange Co., Ltd. เป็น Osaka Securities Exchange ซึ่งยังคงเป็นที่รวบรวมบริษัทหลักทรัพย์และธนาคารแม้ในปัจจุบัน อาคารตลาดหลักทรัพย์ทรงกระบอกสีขาวใหญ่ซึ่งสร้างเสร็จในปี 1935 ได้ถูกเปลี่ยนเป็นอาคารสูงบนดิน 24 ชั้น ใต้ดิน 2 ชั้น ในปี 2002 แต่กำแพงด้านหน้าของเดิมยังคงได้รับการรักษาเอาไว้ ซึ่งที่นี่ก็ยังเป็นหน้าตาของคิตะฮามะ ซึ่งถ่ายทอดบรรยากาศของสมัยนั้นอยู่ หน้าอาคารมีรูปปั้นของ Godai Tomoatsu บิดาของเศรษฐกิจโอซาก้าอยู่